ตอนนี้กำลังมีแอปโซเชียลมีเดีย ที่กำลังมาแรงเงียบๆ ในยุโรป ซึ่งเราน่าจะเริ่มคุ้นหูกันแล้วนั่นก็คือ BeReal
เอกลักษณ์ของ BeReal ต่างจากโซเชียลมีเดียที่เราคุ้นเคย คือ BeReal เป็นแอปแชร์รูปภาพที่ไม่สามารถแชร์เมื่อไรที่ไหนก็ได้ แต่เราโพสต์รูปได้เพียงวันละครั้งเท่านั้น
โดย BeReal จะส่งแจ้งเตือนวันละครั้ง พร้อมข้อความ “Time to BeReal” ผู้ใช้จะไม่มีทางรู้ว่าแอปจะส่งแจ้งเตือนมาตอนไหน แต่เมื่อได้รับแจ้งเตือนแล้ว เราจะมีเวลาถ่ายรูปแค่ 2 นาที จากนั้นก็ให้ลงรูปพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
ดังนั้นภาพที่ได้ ก็จะมีความสมจริง สมกับชื่อแอป BeReal ไอเดียคืออยากให้ผู้ใช้เอ็นจอยกับความสมจริงของตัวเอง มากกว่าที่จะสร้างภาพสวยๆ หรือพยายามหามุมถ่ายรูปสวยๆ ตลอดเวลา
ที่น่าสนใจคือ แอป BeReal จะไม่แสดงเมตริกความนิยมอย่างจำนวนเพื่อนหรือไลค์ แต่จะแสดงให้เพื่อนของคุณเห็นว่า โพสต์ของคุณมาช้าแค่ไหนและคุณถ่ายภาพใหม่กี่ครั้ง
ด้วยเหตุนี้ BeReal จึงได้รับความนิยม เพราะมันนำเสนอทางเลือกใหม่ให้กับการเล่นโซเชียลมีเดีย ที่ทั้งสนุกตื่นเต้น และน่าติดตามว่าเพื่อนๆ จะโพสต์อะไร และผ่อนคลายมากขึ้นที่ไม่ต้องทำตัวสมบูรณ์แบบตลอดเวลาบนโซเชียล
BeReal เปิดตัวในเดือนมกราคม ปี 2020 ถือว่ามีอายุได้ 2 ปีแล้ว พัฒนาโดย Alexis Barreya อดีตพนักงานบริษัท GoPro
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ Apptopia ชี้ว่า BeReal มีการดาวน์โหลดเพียง 2 ล้านครั้งในช่วงแรก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้ชาวฝรั่งเศส แต่ในช่วงหลังยอดดาวน์โหลดพุ่งขึ้นเป็น 56 ล้านครั้ง ส่วนใหญ่มาจากชาวอเมริกัน เมื่อมาดูบน iOS พบว่ามีการดาวน์โหลดไปแล้วประมาณ 11 ล้านครั้งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขึ้นแท่นแอปที่ไม่ใช่เกม ที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดในโลกในเดือนนั้น ตามการคำนวณของ Apptopia
ซึ่งการเติบโตนี้ เทียบเท่าได้กับกับช่วงที่ Snapchat ได้รับความนิยมในปี 2011 และ Clubhouse ในปีที่แล้ว
แต่อนาคตของ BeReal อาจไม่สดใสขนาดนั้น และอาจจะค่อยๆ เลือนหายไปเหมือน Clubhouse เพราะฟีเจอร์หลักของ BeReal ลอกเลียนแบบได้ไม่ยาก
เจ้าแรกที่ประกาศฟีเจอร์ใหม่ลอกเลียนแบบ BeReal คือ TikTok เปิดตัว TikTok Now แอปพลิเคชั่นแยกที่มีฟังก์ชั่นแบบ BeReal
การทำงานของ TikTok Now คือ ส่งแข้งเตือนวันละครั้งพร้อมคำว่า Time to Now เพื่อให้เราถ่ายรูปโพสต์ลงฟีด ตอนนี้ TikTok Now เริ่มเปิดให้ใช้งานแล้วในบางประเทศ ส่วนในสหรัฐฯ ยังไม่เป็นแอปแยก แต่จะเป็นส่วนหนึ่งของแอปหลัก TikTok
นอกจาก TikTok แล้ว ยังมีข่าวลือว่า Instagram ก็กำลังพัฒนาฟีเจอร์แบบเดียวกัน ในฟีเจอร์ที่ชื่อว่า IG Candid Challenges สามารถแชร์รูปได้ใน Stories
บรรดานักวิเคราะห์มองว่า BeReal จะดังและเติบโตอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ส่วนที่ยากคือ การรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการแข่งขันดุเดือดจากโซเชียลมีเดีย ที่มีกำลังคนและกำลังทางเทคโนโลยีมากกว่า
แต่อีกทางรอดของ BeReal ก็คือความรู้สึกของคนที่อยากหนีจากความ toxic ใน Facebook, Instagram, TikTok ซึ่งอาจหล่อเลี้ยงให้ BeReal ยังอยู่ได้ โตต่อไปได้
BeReal สามารถระดมทุน 30 ล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุนซีรีส์ A เมื่อเดือนมิถุนายน นำโดย Andreessen Horowitz และ Accel
นอกจากนี้ยังข่าวลือว่า ผู้บริหาร BeReal พยายามจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกหลุมพรางแบบคู่แข่งรายใหญ่ พยายามใช้ทีมเล็ก เน้นการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ แทนที่จะระดมเงินจำนวนมหาศาลจากผู้ร่วมทุนเพื่อขยายธุรกิจไปทั่วโลก
แต่ BeReal ก็ยังต้องคิดหนักเรื่องหารายได้แพลตฟอร์มให้สามารถโตได้ในระยะยาว ซึ่งทางเลือกมีไม่กี่ทาง คือขายพื้นที่โฆษณาแบบที่โซเชียลมีเดียอื่นๆ ทำกัน หรือเก็บเงินจากผู้ใช้งานเสียเลย เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ต้องทำโฆษณา
ซึ่งการที่ BeReal มียุทธศาสตร์เน้นทีมเล็ก และมีทุนสำรอง ทำให้ BeReal ยังมีเวลาพัฒนาผลิตภัณฑ์ และยังไม่จำเป็นต้องสร้างรายได้ในทันที